วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

[SF] พรากรัก [TakakiXChinen TakaChii]

[SF] พรากรัก [TakakiXChinen TakaChii]



[SF] พรากรัก
Paring :: Takaki X Chinen
Author:: Mo-Chan
Note :: ฟิคเป็นฟิควาย ชายรักชาย รับไม่ได้กรุณากดออกไปด้วยนะค่ะ ^ ^ ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีนะ ติชมนิดหน่อยฟิคนี่เป็นยังไง ๆไม่ต้องเมนก็ได้ แค่เมนชั่นมาบอกทวิตเตอร์ @MoHAE_SUJU_13
PS.ฟิคเรื่องนี้ดราม่านะค่ะ
.
.
.
.
“ทาคาคิ นี่แกพาฉันมาที่ไหนกัน”เสียงของผู้สูงศักดิ์จากเมืองใหญ่ทางฝั่นตอนใต้ถามผู้เป็นองครักษ์ของตน

“กระหม่อมพาฝ่าพระบาทมายังเมืองทางตอนนั้นพะยะค่ะ”ผู้เป็นองครักษ์ตอบคำถามของผู้เป็นเจ้านายของตน

ที่ๆเขาพามานั้นเป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศ ดินแดนสวรรค์ที่ใครๆก็อยากอยู่.. ผู้คนในเมืองล้วนต่างเป็นมิตร และ... คำล่ำลือในความงามของพระราชโอรสของพระราชาเมืองนี้!!

“แล้วชื่อเมืองนี้มันชื่ออะไรกัน ข้าอยากจะรู้เหลือเกิน”ชายหนุ่มผู้เป็นนายถามองครักษ์ของตนด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“แปรูขอรับ”สิ้นเสียงของร่างสูง ร่างสูงก็หันไปมองทั่วทิศราวกับว่าเขากำลังจะหาใครสักคน...ใช่แล้วล่ะ เขากำลังหาเด็กหนุ่มรูปงามผู้นั้น เด็กหนุ่มที่เขาช่วยชีวิต ไว้ในครั้งนั้น ครั้งที่เขามาสืบงานลับที่แปรู....

แต่แล้วลมพายุก็พัดแรงราวกับว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้น!

“หายนะ หายนะจะเกิดขึ้น! เพราะความงามของเจ้าชาย มันจะต้องมีการสูญเสีย วันเวลามันได้เริ่มต้นแล้ว!”เสียงของแม่เฒ่านักทำนาย แห่งเมืองแปรู เอ่ยขึ้นมาก่อนที่บรรดาถ้วยชามและแก้วในบ้าน จะพร้อมใจกันร่วงลงมาแตกอย่างที่ไม่ได้นัดหมาย
.
.
.
.
.
.
“อ๊ะ เก็บหมวกให้ข้าด้วย”เสียงของเจ้าชายแห่งแปรูเอ่ยขึ้นมาอย่างดังเล็กน้อยพราะหมวกใบสุดรักสุดหวงของตนปลิ้วพริ้วไปพร้อมกับลมที่พัดแรงเมื่อกี้ พร้อมกับวิ่งตามหมวกของตนคนไปตามทางที่หมวดนั้นลอยลมไป...

“นี่ของท่าน”
“ขอบใจนะที่ช่วยเก็บหมวกให้เรา”ร่างบางของจิเน็น ยูริ ผู้เป็นเสมือนแก้วตาดวงใจของคนเมืองแปรู กล่าวขอบคุณก่อนจะเงยหน้าเพื่อมองผู้ที่ช่วยเก็บหมวกให้ตน

“ท่าน! ท่านอีกแล้วรึ”ร่างบางชี้นิ้วไปทางร่างสูงอย่างตกใจเล็กน้อย เพราะร่างบางนั้น ไมคิดเลยว่าจะได้เจอร่างสูงอีก ร่างสูงผู้มีพระคุณและเป็นหนึ่งเดียวในดวงใจของร่างบาง...

“เจ้าจริงๆด้วย ข้าไม่คิดว่าจะเจอเจ้าอีก พระเจ้าช่างเป็นใจให้ข้ายิงนักที่ทำใหข้าได้เจอกับท่านอีก...”ส่วนร่างสูงนั้นเองก็สุดแสนจะดีใจ เพราะเขานั้นไม่คิดเลยว่าจะได้เจอ เด็กหนุ่ม ที่คอยเฝ้าอยู่ในฝันเขาตลอดมา ยิ่งกว่าดีใจที่ถูกหวยยิ่งนัก เพราะนอกจากจะได้มาสานสัมพันธ์กับเมืองแปรูแล้ว ยังได้เจอ เด็กหนุ่มผู้นี้อีก

“นั้นใครกันรึท่าน แนะนำให้ข้ารู้จักได้ไหม”ร่างบางเอ่ยถามตามมารยาท เพราะกลัวร่างสูงที่อยู่ข้างๆนั้น จะคิดน้อยใจว่าตัวเองเป็นแค่มวลอากาศที่ล่องลอยใกล้ตนและผู้มีพระคุณของตน จึงชักประเด็นชวนถาม

“ท่านผู้นี้คือเจ้าชายแห่งอีกาส ท่านชื่อ ยูโตะ ส่วนตัวข้านั้นเป็นเพียงอคงรักษ์ของท่านนะ”เมื่อองครักษ์หนุ่มแนะนำผู้เป็นนายตน เขาก็สังเกตเจ้านายของตนไปด้วย ดวงตาที่เจ้านายของตน มองเด็กหนุ่มในฝันของเขานั้นราวกับจะกลืนดิน ภายในตอนนี้เสียให้ได้ เขาคงจะต้องทำแล้วสินะ เพราะเขานั้น ไม่สามารถที่จะแย่งของ ของเจ้านายได้...

“อ๊ะ ถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับแล้ว ข้าไปก่อนนะ ท่านยูโตะ”ร่างบางเคารพยุโตะแต่ดวงตานั้นกลับมองไปที่ทางองครักษ์หนุ่มตลอด จนแอบที่จะมองนานจนเป็นจุดสังเกตมิได้

“มองอะไรอยู่รึ”

“อ๋อๆ เปล่านะ ข้าไปก่อนนะ ท่านทาคาคิ”ร่างบางแย้มยิ้มให้ก่อนจะเดินหันหลังทั้งๆที่ใจนั้นไม่อยากจะไป...

แบบนี้เขาเรียกว่าความรักรึเปล่านะ

“นี่ถ้าเจอข้าครั้งหน้าเรียกข้าว่ายูยะนะ”ร่างสูงทำท่ามือก้องปากตัวเองก่อนจะตะโกนออกไป สร้างความขวยเขินให้กับร่างบางได้ไม่น้อย

“อื้อ ข้าสัญญาครั้งหน้าเรียกข้าว่ายูรินะ”ร่างบางหันหลังก่อนจะทำท่าดียวกันกลับร่างสูงวและตะดกนกลับไป สร้างความหมั่นไส้ให้กลับเจ้าชายยูโตะได้ไม่น้อย...

“เหอะ สนิทสนมกันจังนะ กับ หนุ่มรูปงามผู้นั้น”
“กระหม่อมต้องขออภัยท่านด้วย กระหม่อมไม่คิดว่าท่านจะไม่ชอบใจ”องครักษ์หนุ่มก้มลงหมอบต่ำ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงการต้องการขอโทษที่แท้จริง....

“หึ งั้นไปพระราชวังเพื่อเป็นการสาน ‘สัมพันธ์’ ให้เน้นเฟ้นยิ่งขึ้น”ร่างสูงของเจ้าชายยูโตะกดเสียงต่ำลง ก่อนจะเหยียบมือของร่างสูงที่ยังก้มหมอบอยู่
ถึงแม้จะเจ็บเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถที่จะไปร้องทักท้วงได้ เพราะท่านนั้นมีพระคุณกับเรายิ่งนัก....

“ข้าขอโทษด้วยนะ ยูริ ที่ข้าจะต้องเลิกรักท่าน...”ร่างสูงรำพึงก่อนจะลุกขึ้นมา แล้วเดินตามผู้เป็นนายของตนไป...
.
.
.
.
.
.
ณ ห้องรับรองแขก พระราชวัง แปรู
“ท่านนี้คุยสนุกดีจริงๆ ท่านยูโตะ เดี๋ยวข้าสั่งให้คนสั่งลูกข้ามาเสวยอาหารร่วมกัน”พระราชา แห่งรูแปเอ่ยด้วยความเป็นมิตร
.”นี่ไปเรียกลูกข้ามาเสวยอาหารให้ข้าหน่อย”พระราชาหันไปสั่งคนรับใช้ของตนก่อนจะนั่งจิบชา และคุยกับเจ้าชายยูโตะต่อ อย่างชอบใจ

“ข้าอยากให้เจ้าเจอลูกชายของข้าจริงๆ ถ้าเจ้าได้เห็น เจ้าของจะชอบหน้าดู ถ้าเจ้าถูกใจ สนใจลูกชายข้าไหมล่ะ ข้าจะยกให้ท่าน”ผู้เป็นพระราชาแห่งแปรู กระซิบแต่จงใจให้องครักษ์ที่นั่งเฝ้าเจ้านายของตนอยู่ข้างล่างได้ยิน เพราะเพียงอยากโอ้อวด และไม่ชอบขี้หน้าองครักษ์นี้สักเท่าไร เพราะเขาสังหรณ์ใจชอบกล ว่า ลูกชายสุดรักสุดหวงของเขา อาจจะต้องรักชายผู้นี้

“ท่านพ่อมีอะไรหรือ ถึงเรียกข้ามาเสวยร่วมกับท่านพ่อ”และแล้วเมื่อเจ้าชายตัวน้อยผู้นี้เดินลงมา ก็เรียกความสนใจให้กลับบุรุษหนุ่มทั้งสองไม่น้อย
“ยูริ...”ร่างสูงขององครักษ์หนุ่มเห็นก็แอบเผลอ พุดเสียงดังออกมาเล็กน้อย

“ยูยะ...”ร่างบางก้มหน้งุด ด้วยความอายปนความรู้สึกผิดที่ปกปิด ว่าตนนั้นเป็นเจ้าชายแห่งเมืองแปรู...
“นี่เจ้ารู้จักกับองครักษ์คนนี้ด้วยรึ ยูริ ”พระราชาผู้เป็นพ่อ เมื่อดูสถานการณ์ก็พอจะเดาออกว่าทั้งสองคนนั้นรู้จักกัน จึงแอบรู้สึกเสียอารมร์เล็กน้อย..

“พอดี ยูยะ เขาช่วยลูกไว้น่ะท่านพ่อ...”ร่างบางหน้าซีดเผือก เพราเมื่อได้ยินเสียงของผู้ปเนพ่อตนแล้วก้พอที่จะรู้ว่าพ่อตนนั้นไม่ชอบใจ องครักษ์ผู้นี้เป็นแน่แท้

“งั้นหรอกเหรอ...”พระราชาแห่งแปรูเหยียดยิ้ม ก่อนจะจิกสายตาไม่เป็นมิตรให้ ผู้ชายที่ช่วยลุกของตนเอาไว้...

“ข้าว่า เราไปเสวยข้าวกันดีกว่านะฮ่ะท่านพ่อข้าหิวเหลือเกิน”ร่างบางเมื่อเห็นเหตุการณ์ว่าจะไม่ดีแล้ว จึงได้แต่เปลี่ยนเรื่อง พลางทำท่าทางเหมือนคนหิวข้าวด้วยการลูบท้องของตนเล็กน้อย...

“ก็ได้ แต่แค่เจ้าเท่านั้น พวกบ่าวไพร่อย่าสะเออะ”พระราชาแห่งแปรู ชักสีหน้าใส่ ทาคาคิเล็กน้อย สร้างความสะใจให้กับเจ้าชายยูโตะได้ไม่น้อย

เหมือนถูกตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก เด็กหนุ่มในฝันที่เขามั่นใจว่าเขาแอบรัก ก็ดันเป็นเจ้าชายที่เจ้านายเขาหมายปอง ไหนผู้เป็นพ่อและเจ้านายของคน ที่ดูถูกและย่ำยีศักดิ์ศรีของเขาอีก...

“ทำไมท่านพ่อต้องพูดอย่างนั้นด้วย นี่ยูยะไปกินข้าวกับเราเถอะนะ ^ ^”ร่างบางชักชวนเพื่อกลบรังสีอมหิตที่พ่อตนนั้นส่งไปให้ชายผู้มีพระคุณ และชายที่ตนคาดว่าอาจจะหลงรักเป็นได้...
.
.
.
.
“นี่ท่านยูโตะ เป็นไงบ้างล่ะ ลูกของข้าถูกใจท่านบ้างรึเปล่า”พระราชาแห่งแปรูยิ้มพลางถามเจ้าชายยุโตะอย่างเจ้าเล่ห์เพื่อเป็นการตอกหน้าอคงรักษ์ที่ติดตามเจ้าชายยุโตะ ด้วยเหตุผลเพราะไม่ชอบขี้หน้าและคนนั้นต่ำศักดิ์กว่าตนนั้นเอง

“ข้า... ถูกใจมาก....”หนุ่มหล่อร่างสูงผู้เต็มไปด้วยเงินทองทรัพย์สินที่มากมี พร้อมยังเป็นถึงเชื้อราชวงศ์เป็นว่าที่พระราชาคนต่อไป มีหรือที่พระราแห่งแปรู จะไม่ยินดี ถ้าสามารถยกลูกสุดรักให้เจ้าชายที่มีพร้อมเยี่ยงนี้...

สายตาที่ผู้เป็นนายของตน มองคนที่ตนรักมันช่างกรุ้มกริ่มยิ่งนัก เขานั้นไม่อยากไว้วางใจเอาเสียเลย... เขากลัวเหลือเกินที่อาจจะต้องเสียรักครั้งนี้ไป
เด็กหนุ่มตัวน้อย ที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้
เด็กหนุ่มตัวน้อย ที่เคยตัวสั่นงกๆ พลางขอบคุณเขา
เด็กหนุ่มตัวน้อย ที่เขาชักมั่นใจว่า เขารักจริงๆ...

แต่พรมลิขิตก็เหมือนจะเล่นตลกยิ่งนัก จากตอนแรกที่เขาคิดว่า เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเพียงเหล่าผู้คนธรรมดา สามัญชนเหมือนกับเขา แต่เปล่าเลย เขากับเธอนั้น ฐานะ แตกต่างราวกับฟ้าราวกับเหว

เขาเป็นเพียงองครักษ์ ส่วนเด้กหนุ่มคนนั้น เป็นถึงลุกพระราชา เป็นเจ้าชายตัวน้อยๆ ที่ประชาชนนั้นรักและ ผุ้เป็นพระบิดา ก็หวง และไม่ชอบขี้หน้าเขาน่าดู....

“งั้นข้ายกให้ อีกมะรืน เจ้าและลูกข้า ค่อยกลับเมืองของท่านพร้อมกัน ดีไหม”พระราชาแห่งแปรู พูดเองเออเอง โดยไม่ได้ถามความต้องการของร่างบางแม้แต่น้อย

“ท่านพ่อ...” ร่างบางทำท่าจะแย้ง แต่ก็ต้องสงบปากตน เพราะคิดวาต่อให้แย้งไปก็ไม่มีอะไรขึ้นมา

“เจ้าน่ะ ไปเตรียมตัวเก็บของเถอะ ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่กับเจ้าชายยูโตะ แล้วเจ้าก็ห้ามแย้งด้วยไม่ว่าจะสาเหตุใดๆทั้งสิ้น”น้ำเสียงนั้นเหี้ยมยิ่งนักทำให้ร่างบางที่ได้ยิน ตัวสั่นพั่กๆ ด้วยความกลัว เพราะทั้งน้ำเสียงของผู้เป็นพ่อตน และ สายตาทีมองไปยัง ยูยะ มันช่างหน้ากลัวยิ่งนัก

“ส่วนเจ้า ยังไม่ต้องกลับพร้อมลูกข้าและเจ้าชายยูโตะ เจ้ายังคงมีเรื่องต้อง ‘เคลียร์’กับข้าเป็นการด่วนเลยล่ะ”สิ้นเสียงของพระราชาแห่งแปรู ท่านก็ทรงลุกขึ้นก่อนที่จะสะบัดชายผ้าและเดินออกไปจากห้องอาหารด้วยอารมร์ที่ฉุนเฉียว

“นี่ แม่นมฮ่ะ ช่วยบอกแม่บ้านให้มาเก็บอาหารพวกนั้ด้วยนะฮ่ะ ผมไปก่อนล่ะ”สีหน้านั้นเศร้าสร้อยเหลือเก น ดวงตาดำขลับนั้นมีแววหงอยเหลือเกิน แม่นมนั้นก็พอๆที่จะรู้เหตุการณ์ที่เจ้าชายน้อยของตน เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นได้ดี ซึ่งนางเองก็คิดว่า เจ้าชายน้อยของนางคงต้องรักและหลงใหล ในองครักษ์หนุ่มผู้นี้เป็นแน่....

“เจ้าค่ะ นายน้อย”นางแม่นมรับคำทั้งๆที่ใจนั้นรุ่มร้อน เขากลัวเหลือเกิน ว่าจะต้องมีโศกนาฏกรรม ของความรักครั้งนี้ดังสังหรณ์ของนางบอก...

“ผมขอตัวนะฮ่ะ เจ้าชายยูโตะ ผมต้องการที่จะอยู่ตนเดียว เงียบๆโดยไม่มีใครมายุ่ง”ร่างบางหน้ากระเหง่ากระงอ พลางเน้นคำว่าต้องการอยู่คนเดียวให้ร่างสูงผู้มีศักดิ์เท่าตนได้ยิน ก่อนจะเดินสะบัดผมหอมสลวย นั้นเดินออกไปยังสนามหญ้าที่มีมวลดอกไม้สวย และดาวที่อยู่บนท้องฟ้าในยามค่ำคืน...
.

.
.
.
“แกรักเจ้าชายจิเน็นใช่ไหม”คำถามที่ได้ยิน ทำเอาองครักษ์หนุ่มแทบสะอึกเพราะผู้เป็นเจ้านายของเข้านั้นหมายปองคนที่เขารักซะเหลือเกิน....

“เปล่าขอรับ....”ร่างสูงผู้เป็นองครักษ์ก้มหน้าก้มตา โกหกไปทั้งๆที่ใจเขานั้นรักร่างบางนั้นแทบใจจะขาด แต่เขาก็ต้องฝืนทนที่จะพูดในสิ่งไม่จริงออกไป เพื่อปกป้องน้องชายผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา ไหนจะคนที่เขารักอีก...

“หึ งั้นหรอ ดีไปแต่ถ้าฉันรู้ว่าแกคิดอะไร แกและน้องแก ไม่รอดแน่”เจ้าชายยูโตะ ยิ้มชั่วร้ายก่อนจะผลักองครักษ์ของตนให้ถลา และเดินหนี ขึ้นห้องบรรทม ที่ทางแปรูทำไว้รับรองตนไป...

เวลานี่เขาคงได้แต่ที่จะทำใจ ความรักครั้งแรกของเขาคงจะเป็นไปไม่ได้สินะ... พระผู้เป็นเจ้าก็เหมือนจะเล่นตลกกับเขาซะเหลือเกิน ทำให้เขาตกหลุมรักและสุดท้ายก็ต้องผิดหวัง

เขาได้แต่เดินคิดไปจนเมื่อเขาออกมายังหน้าประสาท เขาก็พบกับเด็กหนุ่มที่เขาแอบรักและพยายามที่จะตัดใจเช่นเดียวกัน....

เขาก็จึงได้แค่ตัดสินใจที่จะเดินหนี เพื่อที่จะหลีกเลี่ยง ความต้องการของตนให้ได้นั้นเอง....

“ท่านยูยะ ใยท่านจะต้องหันหลังหนีข้าด้วย“แต่แล้ว ยังไม่ทันได้เดินเกินครึ่งก้าว ร่างบางที่ทำให้จิตใจของเขานั้นหวั่นไหวมาตลอด ก็ดันรู้ความเคลื่อนไหวของเขา และดักทางเขาทันจนได้...

“ข้าเปล่า เจ้าชายจิเน็น ข้าแค่จำได้ว่าท่านต้องการอยู่คนเดียว ข้าจึงต้องเดินหนีออกห่างไป ถ้าจ้าทำอะไรไม่ได้ดังใจท่าน โปรดจงให้อภัยข้าด้วย”ร่างสูงก้มลงหมอบหน้าลงแทบเท้าของร่างบางเพื่อเป็นการขอโทษ ทำให้ร่างบางที่ดูการกระทำของร่างสูงอยู่นั้นอดที่จะโมโหร่างสูงไม่ได้ ที่ทำตัวตีออกห่างตนเมื่อรู้ตำแหน่งยศศักดิ์ที่แท้จริงของตน

เพี๊ยะ!!!

“ฉันบอกให้นายเรียกฉันว่ายูริ และ และ นายก็หยุดทำตัวเป็นขี้ข้าฉันได้แล้วฉันไม่ชอบ”ร่างบางตัวสั่นไปหมด น้ำตาคลอเต็มเม้ดเต็มหน่อย ก่อนที่จะหันหลังไป เพื่อหลบหน้าร่างสูงที่ตนรัก ด้วยความโมโห

“กระหม่อม กระหม่อมขอโทษเจ้าชายจิเน็น กระหม่อมขอโทษ”

“คนบ้า หยุดพูดเลยนะ หุบปากสามหาว ของเจ้าไป ”ร่างบางสะอื้นไห้พลางด่าร่างสูงที่ตนรักไปพลาง แต่การกระทำนั้นกลับเปล่าเลย ร่างบางวิ่งเข้าไปโผล่กอดร่างสูง ทั้งน้ำตา

“ท่านรู้ไหม ท่านคือฮีโร่ในใจของข้า ท่านคือผู้มอบชีวิตให้ข้าใหม่อีกครั้ง ท่านคือผู้เป็นรักแรกของข้า! ท่านยูยะ ข้า ฮึก ข้ารักท่าน ได้โปรด อย่าทำเหมือนข้าเป็นคนอื่นไปเลย”

“แต่ ข้าไม่ได้รักท่าน...”โกหก โกหกทั้งเพ เขาจำเป็นที่จะต้องโกหกคนที่ตนรักอีกครั้ง...

“ไม่จริงใช่ไหม ไม่จริงใช่ไหมท่านยูยะ ฮืออออ ”ร่างบางร่วงลงไปกองกับพื้น นั่งสะอึกสะอื้นเสียงดังลั่น ทำให้ร่างสูงอดจะสงารไม่ได้จึงยอมเปิดเผยความจริว

“ใช่มันไม่จริง ท่านอย่าได้กังวล ในหัวใจของข้า ทาคาคิ ยูยะผู้นี้ มีต่ท่าน เด็กหนุ่มตัวน้อย ที่ชื่อ จิเน็น ยูริมีท่านเพียงผู้เดียว”ร่างสูงพูดก่อนจะเอื้อมมือมา ปลดสร้อยคอที่แม่ของตนฝากไว้ให้ก่อนตายออกมาก่อนจะอ่ยคำบางคำอกไป

“ท่านโปรดสวมมัน เพื่อเป็นสิ่งของหมั้นได้ไหม ถึงแม้ราคามันจะไม่เยอะมาก แต่มันก็มีความหมายสำหรับข้ามาก ต่อให้ท่านจะต้องแต่งงานกับเจ้าชายยุโตะ ผู้เป้นนายของข้า ก็ตาม ได้โปรดช่วยสวมสิ่งของสิ่งนี้ ที่ถือเป็นตัวแทนของข้าจะได้ไหม”สิ้นเสียงร่างสูงก็ค่อยๆบรรจงใส่สร้อยอเส้นนั้นให้ร่างบางอย่าเบามือ

“ข้าจะรักษามันเท่าชีวิตของข้า... ผู้เป็นที่รักของข้าเอ๋ย ข้ารักท่าน ท่านรู้ไหม ว่าต่อให้ตัวข้าจะเป็นของผู้ใด แต่ใจของข้าเองนั้นจะเป็นของท่านเพียงผู้เดียว”ร่างบางพูดพลางจับมือของร่างสูงมาทาบที่หน้าอกของตัวเองเพื่อให้ร่างสูงรู้ว่าตนนั้นรักร่างสูงแค่ไหน

เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!!

แต่แล้วเสียงของลูกปืนก็ดังสนั่น ทำให้ทั้งสองคนที่อยู่ข้างล่าง ถึงกับตกใจในความดังสนั่นของลูกปืนนั้นทำให้ทั้งคู่หันไปดูที่กำเนิดของเสียงนั้น และแล้ว... ก็พบกับผู้เป็นพ่อของร่างบางเข้าจนได้...

“รักกันมากใช่ไหม ไอ้ลูกไม่รักดี”เสียงของพระราชาทาคาชิ ตะโกนดังลั่น สร้างความหวาดกลัวให้กลับร่างบางนั้นอยู่มากโข...

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะช่วยคนที่ข้ารัก ยูริจัง ท่านจงหลบภัยข้างหลังข้าเถิด”น้ำเสียงที่ร่างบางได้ยินนั้น ทำให้หัวใจของร่างบางนั้นพองโต

เขาคิดไม่ผิดจริงๆที่หลงรักคนๆนี้
คนที่สามารถปกป้องเราได้
คนที่ไม่มีสายตาที่จะข่มเหงเราเลยแม้แต่น้อย
คนที่อ่อนน้อมถ่อมตนกับเราตลอด
และ.....

คนที่จะเอาชีวิตของเขาเข้าแลกเพื่อช่วยชีวิตตน!!

“ท่านยูยะ ท่านรักษาชีวิตข้า แต่ท่านอย่าลืมรักษาชีวิตท่านด้วย ถ้าท่านตายไป ข้าก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม...”เสียงนั้นสลดเหลือเกิน เพระร่างบางนั้นรู้ว่าผู้เป็นพ่อของตนนั้นเป็นคนเด็ดขาดขนาดไหน...

“ท่านอย่าพูดอย่างนั้นเลย ต่อให้ข้าตายไป ท่านก็ยังต้องมีชีวิตอยู่ อย่ามาตายเพราะคนต่ำศักดิ์อย่างข้าเลย”

“บอกลากันซะให้พอ ก่อนที่ข้าจะฆ่าไอ้หมาวัดที่ต้องจะเด็ดดอกฟ้าเช่นลูกข้า”พระราชาแห่งแปรู เล็งปืนจากที่สูงตรงตำแหน่งที่ร่างสูงยืนบังร่างบางอยู่พอดี...

“ถ้าท่านอยากยิง ท่านก็ยิงมาเถิด ข้าไม่กลัวดอก ต่อให้ข้าจะตายไป ข้าก็จะขอรัก ลูกของท่านตลอดไป”ร่างสูงยกแขกเพื่อเป็นเกาะกำบังร่างบางจากลูกกระสุน

“ท่านพ่อได้โปรด อย่ายิง อย่ายิงเขาเลย ลูกรักเขา ท่านได้ยินไหมว่าลูกกันเขา!!”

“เจ้าไม่มีสิทธิมาพูด ข้ายกเจ้าให้เจ้าชายยูโตะ ต่อให้ใจเจ้าไม่ได้อยู่กับเจ้าชายยูโตะ แต่กายเจ้าจะต้องอยู่กับเจ้าชายยูโตะตลอดไป”สิ้นเสียงของพระราชาแห่งแปรูเหมือนสายฟ้าฟาดลงทั้งดวงใจของคนทั้งสอง.... นี่แสดงว่า ต่อให้ร่างสูงตายไปเขาก็ต้องได้คู่ครองเป็นเจ้าชายยูโตะอย่างนั้นหรอ

สู้ให้เขาตายไปพร้อมกันซะยังดีกว่า!!

“ถ้าท่านพ่อจะยิงเขา ก็ช่วยยิงลูกให้ตายตกตามเขาไปด้วย เพราะลูกรักเขาและจะอยู่กับเขาตลอดไป ท่านพ่อเข้าใจไหมว่าลูกรักเขา !” ร่างบางจากที่ตอนแรกอยู่หลังร่างสูงนั้น ก็กระโดดมาขวางลูกปืนในตำแหน่งเดียวกันกับร่างสูง พร้อมทำสายตาเชิงไม่กลัวลูกปืนนั้นแม้แต่นิดเดียว...

‘’แกอย่านึกว่าฉันไม่กล้านะ!”สิ้นเสียงฝ่าก็ร้องดังลั่น พร้อมกับลมพายุหมุนก็พัดแรงร้าวกับฟ้าจะถล่มทลาย แต่ก็หาจะทำให้ผู้เป็นพระราชาละความพยายามไม่ ร่างสูงวัยชรายังคงหยิบกระบอกปืนยาวก่อนที่จะเล็งไปที่ร่างสูงอีกครั้ง ก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืน พร้อมที่จะยิง!!

ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!

สิ้นเสียงปืนดังสนั่น ร่างสูงองครักษ์ก็ร่วงลงกองกับพื้นเพราะลูกกระสุนที่พระราชายิงมานั้น นั้นโดนเข้าตรงตัวแหน่งหัวใจพอดี....

“ท่านยูยะ!!!!!!!!!!”ร่างบางที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็แทบทรุดลงตามร่างสูง หัวใจนั้นเหมือนจะขาดตามร่างสูงผู้เป็นที่รักเสียให้ได้

“ท่านพ่อ!! ท่านพ่อโหดร้ายที่สุด ข้า ข้าเกลียดท่านพ่อ ท่านพ่อไม่เคยรักข้าเลยซ้ำหนักท่านยัง ฆ่าคนที่ข้ารัก ข้าจะขอสาปแช่ง ให้ท่านพ่อ ผิดหวังในความรักทุกชาติไป! และข้าจะขอสาปแช่งเจ้าชายยูโตะ ขอให้ท่านรักกับน้อง หรือ พี่ ของคนที่ท่านเกลียด หลงรักจนหน้ามืดตามัวแบบข้า!!!”

เปรี้ยง!!!!!

สิ้นคำสาปแช่ง ฟ้าก็ผ่าลงมากลางต้นไม้ใหญ่ที่ผู้เป็นราชินีปลูกไว้ผ่าซีกกลางแบ่งครึ่ง สร้างควมตกใจให้ผู้เป็นพระราชาไม่น้อย เพราะเมื่อฟ้าผ่า ก็ราวกับคำสาปแช่งของผู้เป็นลูกของตน จะสำแดงฤทธิ์เดชตามที่สาปแช่งมา!!

“ในเมื่อท่านตายไป ข้าก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม.. ข้า ข้ายอมตายกับคนที่ข้ารักซะยังจะดีกว่า...”สิ้นเสียงร่างบางก็คว้ามีดพกที่อยู่ในที่แนบเอวของร่างสูงออกมาก่อนที่จะหยิบมันออกมาและเอยคำพูดนึง ประโยคสุดท้ายก่อนที่จะตาย…

“ท่านยูยะ ข้ารักท่านมากนะ”ร่างบางลูบไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงด้วยอารมณ์แสนรักก่อนที่จะ...

“อย่านะลูกพ่อขอโทษ!!!!”

ช้วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็น ก่อนที่ร่างบางจะล้มลงไปตะกรองกอดกับร่างสูง ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดลง...

ภาวนาหากชาติหน้ามีจริง ฉันขอให้ฉันพบเธออีกสักครั้ง
จะใช้ทั้งชีวิตแก้ไขที่ผิดพลั้งจะรักเธอไม่จางตลอดไป....
.
.
.
.
.
.
END

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น