วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555

[SF] คู่กัด (TakaChii)


[SF] คู่กัด (TakaChii)
Rate::PG
Note::เรื่องนี้อาจจะมีคำหยาบคาย หน่อยนะค่ะ รับไม่ได้ก็กดออกจ้า^ ^
.
.
.
.
.
''โว๊ย! ไอ้ยูยะมึงอย่ามากวนตีนกูนะ!''เสียงแหลมใสตะโกนดังลั่นก่อนที่จะใช้บาทาคู่เล็กเตะโต๊ะเรียนที่ขวางหน้าตา

''มึงอะไร ห๊ะ ไอเตี้ย กูบอกแล้วนะว่ากูจะจีบอาจารย์ห้องพยาบาลคนใหม่น่ะ มึงแม่งเสือกตัดหน้ากู''ยูยะที่ไม่ยอมความเหมือนกัน ก็ตะโกนด่ากันจนสร้างความวุ่นวายให้ในห้องไม่น้อย

''นี่นายทั้งสองน่ะ หยุดทะเลาะกันเลยนะ''เสียงใสของยามาดะ เรียวสุเกะ ตะโกนดังลั่นเพื่อเป็นการห้ามทัพ

''นี่ยามะจังดูไอ้อ้วนดำมันดิ มันมาว่าเขาอ่ะ เขาผิดด้วยไงที่เดินหน้าจีบอาจารย์มิรุนะก่อน''จิเน็นที่ได้ที่ ก็เดินหน้าฟ้องยามาดะก่อน เผื่อตนอาจจะได้ความเห็นใจจากเพื่อนตัวอวบคนนี้


''ไอ้ยูริมึงอย่ามาพูดนะมึง กูบอกแล้วว่ากูจอง ดูมันสิยามะจัง ดูมันทำกับเขาดิ''ยูยะที่เห็นว่าจะไม่ได้การณ์ก็รีบอ้อนยามาดะเช่นกัน แต่หารู้ไหมว่ามีชายหนุ่มคนนึงที่นั่งอ่านหนังสือ ใกล้ๆอยู่ เสียสมาธิจนสามารถหักดินสอได้แล้ว!

''มึงอย่ามาอ้อนยามะจังนะ/มึงอย่ามายุ่งกับยามะจังกูนะ''เสียงของคู่กัดตะโกนใส่หน้ายามาดะพร้อมกัน

''นี่ทั้งสองหยุดได้แล้ว เพื่อนกันไม่ใช่หรอ!''ยามาดะที่เริ่มหมดหนทางจะแก้ปัญหาจึงใช้น้ำเย็นเข้ามาลูบคนทั้งสอง

''ไม่นะเขาไม่ยอมจริงด้วย''จิเน็นที่ยังไม่ยอมความก็อ้อนยามาดะด้วยการเอาหัวของตนไปซบอกบางของยามาดะก่อนจะมุดหัวของตนลงไปเพื่อเป็นการอ้อน

''นี่ ฮ่า ฮ่ะ พอแล้วยูริจัง ฉันจั๊กจี้''ยามาดะพยายามจับหัวของจิเน็นออกเพราะมันจั๊กจี้ที่สำคัญอาจจะเสี่ยงให้คนรักของตน ของขึ้นได้นี้สิ

''เขาไม่ยอมให้ไอ้เตี้ยมันได้อ้อนยามะจังคนเดียวหรอกนะ''สิ้นเสียงร่างสูงของยูยะก็ตั้งท่าจะหอมแก้มใสอวบของยามาดะแต่แล้วก็มีเสียงดัง
'ปัง!'
ดังออกมา ปรากฏว่าเป็นร่างสูงของยูโตะนั้นเองที่ทุบโต๊ะดังขึ้น

''ไอยูยะ ไอยูริ นั้นแฟนกู อย่ามายุ่ง!''ยูโตะด่าอย่างเหลืออดด้วยความโมโห

''กูจะยุ่งใครจะทำไม''จิเน็นกับยูยะพูดพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย

''มึงอยากยุ่งกับแฟนกูนักใช่ไหม... ได้''สิ้นเสียงยูโตะก็หักกระดูกของตนดัง'กร๊อบ แกร๊บ'ทำให้ทั้งคู่ที่เห็นท่าว่าจะไม่ดี หันมามองหน้ากันเล็กน้อย..

''มึงตาย!!!!!!''

''เผ่นเถอะ!''ยูยะที่เห็นว่าคงไม่รอดทั้งคู่แน่ จึงได้แต่จับมือของจิเน็นไว้แน่น ก่อนที่จะรีบวิ่งหนียูโตะไป

''มึงจะไปไหน มึงหยุดเลยนะ''

''กูหยุดกูก็โง่ดิ''จิเน็นตบท้ายก่อนจะโค่นรังหนังสือเพื่อขวางทางยูโตะไว้...
.
.
.
''แฮ่กๆ เหนื่อยชิบหายเลย ไม่รู้ยูโตะมันจะหวงยามะจังไปไหนว่ะ''เสียงแหลมใสของจิเน็นบ่นเล็กน้อยหลังจากที่ตนกับยูยะ หาทีซ่อนยูโตะได้ ซึ่งนั้นก็คือ ห้องใต้บันไดอันแสนคับแคบที่มีที่พอสำหรับเขาสองคนอยู่ได้เท่านั้น

''มึงหยุดบ่นก่อนสิ ยูริเดี๋ยวมันได้ยินเสียงก็แห่มาอีก ที่นี้หนีไม่ได้แล้วนะมึง''ยูยะติเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองหน้าของจิเน็น

แต่แล้วดวงตาของทั้งคู่ก็สบกันโดยบังเอิญ...

''มะ มะ มึงอย่ามาเรียกกูว่ายูรินะ''จิเน็นบ่นอีกครั้งจนยูยะเห็นท่าว่าจะไม่ดีจึงใช้มือของตนปิดปากของร่างบางที่ยังคงส่งเสียงไม่เลิก

''มึงเงียบดิกูได้ยินเสียงคนเดิน''ยูยะบอกแต่ก็ยังไม่เลิกปิดปากของร่างบาง

''อื้อ ไออัดอึงอ่อยอูเอยอะ''ร่างบางยังคงพยศไม่เลิก จึงได้แต่คิดแผนจะทำมือของร่างสูงให้ออกจากปากตนด้วยการ'กัด'


''โอ๊ย มึงกัดกูหรอ! ดื้อนักใช่ไหม ได้''สิ้นเสียงร่างสูงก็ก้มลงไปที่ใบหน้าของร่างบางก่อนจะประกบปากปิดเสียงแหลมพยศนี้

''อื้อ''เสียงครางหวานที่แหลดรอดออกมาได้เล็กน้อยแต่ก็สร้างอารมณ์ของร่างสูงได้ไม่น้อย

มือคู่เล็กเอื้อมไปโอบคอของร่างสูงไว้เพื่อเป็นการประคองตนมิให้ร่วงลงไปกองกับพื้น

เนิ่นนาน...
เนิ่นนานกับการจูบครั้งนี้
ถึงเสียที่ยูยะได้ยินนั้นจะหายไปได้สักพักแล้ว
แต่....
การจูบครั้งนี้ยังคงไม่จบ!


''อื้อ~ อ่อย''เสียงอู้อี้ประท้วงเล็กน้อยก่อนจะพยายามดึงตัวเองออกจากการ'จูบ'ครั้งนี้อย่างทุลักทุเล

''มึงจูบกูทำไม!''ร่างบางหันมาด่าก่อนจะทุบอกร่างสูงทั้งน้ำตา

''กูขอโทษ''

''กูไม่ยกโทษ มึงหลบไป กูจะกลับบ้าน''ร่างบางพยายามย่อตัวก่อนจะเดินหนีออกไปจากห้องใต้บันไดอันแสบคับแคบแห่งนี้

''เดี๋ยวก่อน''ยูยะที่ไวทันร่างบางจึงรีบคว้าแขนร่างบางมาไว้กับตน

''ทำไม''

''ให้กูไปส่ง ยังไงบ้านกูกับมึงก็อยู่ข้างกัน''ยูยะบอกแต่ก็ต้องถูกร่างบางสะบัดมือทิ้งไป

''ไม่ต้องกูมีขา กูไม่ปัญญากลับเองไม่ต้องมาให้มึงส่งหรอก''ร่างบางปัดอย่างอารมณ์เสียก่อนจะรีบโดยลืมกระเป๋าเอาไว้

'คงไม่ต้องตามไปสินะ'ร่างสูงคิดก่อนจะวิ่งขึ้นห้องเรียนไปเพื่อเอากระเป๋าของตนและร่างบางที่ลืมไว้ในห้อง

ร่างบางที่วิ่งพ้นเขตโรงเรียนก็เดินกลับบ้านเหมือนคนที่ไร้วิญญาณในหัวสมองก็คิดแต่เรื่องจูบเมื่อกี้

'ทำไมต้องใจเต้นไปกับมัน'

'ทำไมถึงต้องยอม'

'ทำไมถึงต้องเคลิ้ม'

'ทำไมต้องมีอารมณ์ร่วม'

'ทำไมต้องหวั่นไหว'

'ทำไมต้องอยากโหยหามันอีก'

'ทำไม?'

เหมือนคำถามที่ถล่มในหัวร่างบาง
ในใจนั้นร้อนเร่าอยากจะรู้คำตอบ
แต่คงเป็นเพราะ'อคติ'ที่มีให้เพื่อนคนนี้
อยู่ตลอดมา...

'นี้เรารักมันใช่ไหม'

''ฉันไม่ได้รักแกไอ้ยูยะ!!!!''เสียงแหลมใสตะโกนดังลั่นดีที่ไม่มีคนอยู่งั้นเขาคงต้องอับอายเป็นแน่

ร่างบางรีบมุดหน้าลง ก่อนจะวิ่งกลับบ้านอย่างไม่สนใจ จนไม่ถึง20นาที เขาก็กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย

''กลับมาแล้วฮ่ะ''เมื่อถึงร่างบางก็เอ่ยทักทายตามธรรมเนียม ก่อนจะถอดรองเท้าและเดินขึ้นบ้านไป

''นี่ยูริลูก แม่ทำเกี๊ยวซ่าให้กินน่ะอาบน้ำเสร็จลงมากินด้วยล่ะลูก''

''คร้าบบบ แม่ รักแม่ที่สุดเลย''ร่างบางหันมาตอบก่อนจะหอมแก้มแม่ตนเพื่อเป็นการอ้อน

ไม่ถึง10นาทีร่างบางก็รีบวิ่งมาที่ห้องกินข้าวก่อนจะรีบนั่งลงยังที่ประจำของตัวเอง

''ทานล่ะนะครับ''สิ้นเสียงร่างบางก็หยิบตะเกียบมา ก่อนจะคีบเกี๊ยวซ่าของโปรดตนเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

'ติ๊งหน่อง'แต่แล้วเสียงออดของบ้านก็ดังขึ้น ทำให้ร่างบางหันไปมองเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

''เดี๋ยวแม่ไปเปิดนะลูก''

''ฮ่ะ''พูดจบร่างบางก็หันมาสนใจกับเกี๊ยวซ่าต่อ

''มาแล้วจ้า''หญิงชราขานรับก่อนจะเปิดประตูบ้านเพื่อต้อนรับแขก

''อ๊ะ ยูยะคุงหรอจ๊ะ มีอะไรรึเปล่า''

''พอดียูริลืมกระเป๋าไว้นะฮ่ะ ผมเลยเอามาให้''ยูยะยิ้มให้กับแม่ของร่างบางก่อนจะยื่นกระเป๋านักเรียนของร่างบางให้

''อ๋อ จ้างั้นลูกเขามากินอาหารกับแม่ก่อนดีกว่ามั้ย?''หญิงชราเชิญชวน

''งั้นผมก็ไม่เกรงใจนะครับ''เมื่อของกินมาล่อหน้า มีหรือทาคาคิ ยูยะจะปฏิเสธ ร่างสูงถอดรองเท้าก่อนจะเดินเขาห้องครัวตามหญิงชราไป

''ยูริดูสิลูกใครมา''

''ไอ้ยูยะ - -* พามันมาทำไมครับแม่''ยูริหันไปบ่นก่อนจะรีบตักตวงเกี๊ยวซ่าให้ไวที่สุดเพื่อจะหนีร่างสูงนั้นไป

''นี้ยูริ ไม่พูดอย่างนี้นะลูก ยูยะเป็นเพื่อนเรานะ''หญิงชราตักเตือน

''เพื่อนกันทำแบบนี้หรอฮ่ะ!''สิ้นเสียงร่างบางก็กระแทกตะเกียบก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องไป

''ไปทำอะไรให้ลูกแม่หงุดหงิดล่ะยูยะคุง''

''เอ่อ ผม...''

''ไม่ต้องบอกแม่ก็ได้นะ แต่ว่าไปง้อลูกแม่ก่อนเถอะไป''หญิงชราหันไปก่อนจะดันร่างสูงขึ้นไปบนห้องนอนของลูกชายตน

''เขาไปในห้องเลยลูก''

''ครับ''ร่างสูงรับคำก่อนจะผลักประตูห้องเขาไป

''ใครให้มึงเขาห้องกู''ยังไม่ทันจะปิดประตูห้องดี ร่างบางก็ต้อนรับด้วยน้ำเสียงงอนๆซะแล้ว

''ขอโทษ''

''กูไม่ยกให้''ร่างบางกอดอกตัวเองก่อนจะเชิดหน้าไปทางอื่น

''กูขอโทษจริงๆนะ กูไม่รู้มึงจะโกรธกู''

''มึงจะบ้ารึไง ทำไมกูต้องไปโกรธมึงด้วย''ร่างบางปฏิเสธ

''ก็กูจูบมึง...''

''กูไม่โกรธมึงหรอกนะ แต่กูแค่เกลียด เกลียดที่มึงทำให้กูสับสน!''ร่างบางพูดก่อนจะลงไปนั่งบนเตียง

''สับสน?''

''ใช่กูสับสน! สับสนมาก มึงเป็นต้นเหตุให้กูสับสนไอ้ยูยะ มึงมันเป็นต้นเหตุ''

''กูไม่เข้าใจ แต่ยังไงก็เหอะ เราเป็นเพื่อนกัน มึงหายเกลียดกูไม่ได้หรอ''ยูยะหันไปอ้อนเพราะหมดปัญญาที่จะรู้ได้ว่าร่างบางนั้นสับสนอะไร

''อ่อมส์ ไอ้โง่เอ๊ย กูหายเกลียดมึงก็ได้''ร่างบางหันไปด่าก่อนจะเดินหนีร่างสูงไปที่ระเบียงห้องของตน

''ทำไมมึงต้องว่ากูโง่ด้วยอ่ะ กูเสียใจนะมึง''ยูยะทำแก้มพองลมเล็กน้อยเพื่อแสดงว่าตนนั้นงอนอยู่

''จะให้กูด่ามึงว่าไงครับ มึงเขาใจไหมว่ากูสับสนเรื่องอะไร''

''กูไม่รู้กูเลยเปลี่ยนเรื่องไง''ยูยะส่ายหัวอย่างไม่รู้เรื่องทำให้ร่างบางที่ได้เห็นยิ่งโมโหเขาไปใหญ่

''สับสนเรื่องจูบไงเว้ย!''สิ้นเสียงร่างบางก็รวมกำลังก่อนจะกระโดดถีบร่างสูงที่ไม่ได้ตั้งตัวจนล้มลงไป

''โอ๊ยกูเจ็บนะโว๊ย ถีบกูทำไม''

''กูจะถีบให้ความโง่มันหายไปไง''ร่างบางพูดก่อนจะใช้เท้าของตนเขี่ยไปที่'พุง'ของร่างสูงด้วยความหมั่นไส้

''ห๊ะ มึงว่าอะไรนะ มึงบอกว่าสับสนกับจูบของกู?''ร่างสูงหันไปทวนคำถามที่ตนได้ยิน

''ก็เอออ่ะดิ''ร่างบางหันหน้าไปมองทางอื่นเล็กน้อย

''งั้นมึงก็คิดเหมือนกูสิ...''

''เอ๋ ?? คิดเหมือนมึง''

''กูชอบมึงนะยูริ กูชอบมึงมานานแล้วด้วย''ร่างสูงสารภาพความจริงจากใจของตน

''แต่ที่มึงชอบมากัดกับกู มึงจีบผู้หญิงคนนั้นคนนี้ล่ะ มึงจะอธิบายว่าไง''

''ไอ้ที่กูจีบผู้หญิงก็เพราะกูยังไม่ยอมรับความจริงไง ส่วนที่กูหาเรื่องกัดกับมึงก็เพราะกูอยากอยู่ใกล้มึงน่ะแหละ''เหมือนลูกศรของกามเทพนับร้อยแทงมาที่อกของร่างบางดัง'จึ้ก'เพราะเขาไม่อยากคิดเลยว่าเพื่อนของเขาที่เป็นทั้งคู่กัด คู่แข่งของเขาจะหลงชอบเขามาตลอดซะได้

''แล้วกูก็รู้ว่ากูคิดผิดมาตลอดที่กูไม่ยอมรับ หลังจจากที่จูบกับมึง...''

''ไอ้บ้า!''สิ้นเสียงร่างบางก็โผเขาไปกอดร่างสูงด้วยความรู้สึกดีที่ก่อขึ้นในหัวใจของตน

''คบกับผมนะยูริจัง''

''ไม่!''ร่างบางตอบอย่างรวดเร็วจนร่างสูงที่ได้ยินนั้นแทบจะหมดกำลังใจและความหวังไปพลันแต่แล้ว...

''ไม่ปฎิเสธครับ''ร่างบางยิ้มให้ร่างสูงเล็กน้อยก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มร่างสูงของตน

ถึงแม้จะเคยทะเลาะกันมาแรงขนาดไหน
ถึงแม้จะตีกันด่าล่อกันถึงเพียงใด
แต่คำว่า'รัก'มันก็สามารถถลายกำแพงของ'คู่กัด'จนเป็น'คู่รัก'ได้นั้นเอง...

END

.
.
.
.
.
''อ๊ะ ยูโตะดูสองคนนั้นสิ''ร่างอวบของยามาดะชี้คู่กัดทั้งสองที่เป็นเพื่อนตนให้คนรักดู

''ก็เหมือนเดิมนี้ครับ ยามะจังบ้านมันใกล้กันก็เดินมาโรงเรียนด้วยกันเป็นธรรมดา''

''ไม่ใช่ๆ ยูโตะลองดูมือของทั้งสองดิ''ร่างอวบหันไปบอกแฟนตนก่อนจะชี้ให้ดูตำแหน่งนั้น...

''เออ จริงด้วยแหะ ''

''งั้นเราวิ่งไปหายูริกับยูยะกันเถอะ''สิ้นเสียงร่างอวบก็คว้ามือของร่างสูงโปร่งผู้เป็นที่รักของตนวิ่งลงไปอย่างรวดเร็วด้วยความอยากรู้

''นี่ไอ้ยูริแกเป็นไรว่ะ''ยูโตะทักเพื่อนของตนก่อนจะแกะมือของร่างบางออกจากยูยะ ก่อนจะทำท่าเหมือนสำรวจดูว่ามีกุญแจมือคล้องกันรึเปล่า

''หาอะไรน่ะยูโตะ''ร่างบางถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย

''ก็หากุญแจมือไง''

''หากุญแจ?''ร่างบางทำหน้างงเล็กน้อย เพราะคำพูดของเพื่อนตนนั้นมันแปลกเหลือเกิน


''ก็ทำไมยูริถึงเดินจูงไม้ จูงมือกับยูยะมาล่ะ''ยามาดะถาม
สร้างเสียงหัวเราะให้กับร่างบางของยูริไม่น้อย

''ก็ผมเป็นแฟนกับยูยะนี้''

'''ห๊าาาา ยูริวันนี้แกเป็นไรเป็นไข้ หรือผีตัวไหนมันเข้าแกเปล่าว่ะ''ยูโตะเมื่อได้ฟังคำตอบยิ่งงงไปใหญ่ พาลนึกว่าเพื่อนตนนั้น โดนผีเข้า - -*

''ยูริจังน่ะ ไม่โดนผีตัวไหนเข้าหรอ แต่แก่อ่ะไม่แน่''สิ้นเสียงร่างสูงก็หักนิ้วมือของตัวเองดัง'กร๊อบ แกร๊บ'ทำให้ภาพที่ยูโตะเคยทำหวนขึ้นมาในหัวของยูโตะอย่างฉับพลัน

''มึงตาย!!!!!!!!''

END Again

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

[SF] My One Day (TakaChii)

[SF] My One Day (TakaChii) 
Rate::PG
.
.
.
.

''ไปเดทกันนะ''

''อะไรนะฮ่ะพี่ยูยะ?''ผมถามคนรักของผมอย่างสงสัยในสิ่งที่ผมได้ยิน

''พรุ่งนี้ไปเดทกัน อย่าลืมล่ะ สองโมงเช้าเดี๋ยวพี่จะมารับ''สิ้นเสียงของพี่ยูยะ พี่เขาก็นำมืออันอบอุ่นของเขามาขยี้หัวผมก่อนที่พี่เขาจะเดินออกจากบ้านของผมไป...

หัวใจดวงน้อยของผมเริ่มที่จะพองตัวขึ้นเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกเป่าให้โตขึ้นเลยล่ะ

''ไปเดทงั้นหรอ?'' อีแม่เจ้าโว้ย จิเน็น ยูริล่ะอยากจะกราบหมาข้างบ้านที่มันนั่งมองหน้าเขายิ่งนัก!

ไปเดทงั้นหรอ? ตั้งแต่ที่เราคบกันมาก็จวนจะ4ปี ผมกับพี่ยูยะก็แทบที่จะไม่มีเวลาไปเที่ยวด้วยกันซะด้วยซ้ำ นี่คงจะเป็นครั้งที่สองหลังจจากที่เราคบกันมาสินะ -//-

''ยูริลูกไม่เข้าบ้านหรอจ๊ะ''เสียงของหญิงชราผู้เป็นแม่ของผมเรียกมาทำให้สะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าบ้านไป

''ทานอะไรมารึยังล่ะลูก?''ท่านหันมาถามผมก่อนที่จะยิ้มให้ผมอย่างที่เคยเป็นอยู่ทุกวัน

''ทานมาแล้วฮ่ะแม่^^''ผมตอบกลับท่านไปก่อนที่จะยิ้มให้ท่านเล็กน้อย ก่อนที่ท่านจะเดินเข้ามาสวมกอดผม

''มีอะไรหรอครับคุณแม่''

''พรุ่งนี้ลูกน่ะไปเดทใช่ไหม?''

''ครับแม่ ผมว่าจะบอกแม่ผมก็ลืมบอกไปซะเลยแหะ''แม่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดประโยคนึงออกมา

''เดี๋ยวนี้โตเป็นสาวเเล้วมีความรักนะลูกแม่''คุณแม่พูติดตลอกเล็กน้อยก่อนที่จะเอื้อมมืออันแสนจะอบอุ่มที่สุดมาลูบหัวของผมอย่างทะนุถนอม

'อ่า~ มือของแม่ยังคงอุ่นเหมือนเดิมเลยสินะ'

''ผมเป็นผู้ชายนะฮ่ะ แม่ :(''ผมแกล้งพองลมเล็กน้อย เพื่อแสดงให้รู้ว่าผมนั้นแกล้งงอนมารดาของผมอยู่

''โธ่ ก็ลูกแม่ออกจะสวยและน่ารักเหมือนแม่ไงล่ะ''ท่านพูดจบก็นำมือของท่านมาประกบที่หน้าผมแล้วก็หยิกเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว พลางหัวเราะกระซิกโดยไม่ดูหน้าผมเลยด้วยซ้ำ

'ชิส์ เจ็บนะ'

ยังไม่ทันที่ผมจะหันไปบ่นคุณแม่ คุณแม่ก็คว้าข้อมือของผมวิ่งไปเข้าห้องของท่านอย่างรวดเร็วจนผมนั้นแทบที่จะตามไม่ทัน

''คุณแม่ฮ่ะ เบาๆก็ได้ฮ่ะ เดี๋ยวแม่ล่มมาจะทำไงกันล่ะฮ่ะ''ผมบ่นไปก็เท่านแหละเพราะคุณแม่ของท่านไม่ฟังเลย แถมยังรีบวิ่งเข้าไปอีก เมื่อถึงหน้าห้องคุณแม่ คุณแม่ก็ผลักผมลงบนเตียงก่อนที่จะค้นหาอะไรสักอย่างเสียงดังตะกุก ตะกัก

ผมนั่งรอไม่ถึง5นาทีคุณแม่ก็มาพร้อมกับเสื้อแขนยาวสีขาวตัวสวยและกระโปรงยาวพริ้วสีฟ้าน้ำทะเลที่ความยาวนั้นถึงตาตุ่มของผมเลยล่ะ

'คุณแม่คิดจะทำอะไรกันนะ...'

''ชะแว๊ง! แม่มาแล้วจ้า รอนานไหม''แม่ของผมยิ้มแย้มทักผมก่อนที่จะวางเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ข้างตัวผม

''ไม่นานหรอกฮ่ะ ว่าแต่แม่จะทำอะไรน่ะ?''ผมชำเลืองสายตาไปมองกองเสื้อผ้าที่อยู่ข้างผมเล็กน้อย

''แปลงโฉมคนสวยไง! มานี้เอาเสื้อไปแล้วออกมาให้แม่ดูตัวเดี๋ยวนี้นะ''ผมหยิบเสื้อผ้าตามคำปัญหาที่คุณแม่สั่งด้วยสีหน้าที่งง เล็กน้อยแต่ทำไงได้ล่ะในเมื่อไม่มีใครที่จะสามารถขัดขวางแม่ของผมได้

ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนที่จะเริ่มปลดเสื้อยืดใหญ่ที่ตัวหลวมโครกออกไป และหันมาปลดเข็มขัด และกางเกงออกก่อนที่จะพาดมันไว้ที่ราวตากผ้าในห้องน้ำ

''ยูริลูก รีบแต่งตัวสิ จะเป็นคนสวยของยูยะทั้งทีมันต้องมั่นใจหน่อยสิ!''คุณแม่หันมาเร่งผม ซึ่งทำให้ผมต้องตัดสินใจและมั่นใจสักทีสินะ!

ผมเลือกที่จะหยิบกระโปรงสีฟ้าน้ำทะเลตัวยาวตัวนั้นมาใส่ ก่อนที่จะมาสวมเสื้อยืดสีขาวแขนยาวตัวนั้นอย่างระมัดระวัง

เมื่อแต่งตัวเสร็จผมก็ผลักประตูห้องน้ำออก
หน้าของแม่ผมเมื่อได้เห็นท่านก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะจับมือของผมมาพร้อมกดจูบลงไปบาฝ่ามือของผมด้วยล่ะ

''สวยจังลูกสาวของแม่เนี่ย แต่แม่ว่าต้องตรงนี้หน่อยน้า''แม่ของผมจับเสื้อสะโพกของผมมาก่อนที่จัปลดซิบกระโปรงออกและจับเสื้อยืดสีขาวตัวนั้นยัดเข้าไปจนหมด

''แล้วก็ต้องเพิ่มนี้สินะ''แม่ผมหยิบเข้มขัดสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ใกล้ท่าน ก่อนที่จะอ้อมสวมเข็มขัดให้ผมอย่างนุ่มนวล''

''ยัตต้า! แค่นี้ลูกแม่ก็สวยแล้วสินะ เหลือแค่หน้ากับผมสินะ''แม่ของผมยิ้มกันมาดูผมอย่างพิเคราะห์จารถาก่อนที่จะยิ้มให้ผมอีกครั้ง

''ลูกไปเปลี่ยนเสื้อแล้วก็นอนเลยนะ พรุ่งนี้6โมงครึ่งมาที่ห้อง แม่ด้วยล่ะ''แม่สั่งก่อนที่ท่านจะเดินออกไปจากห้องเพื่อเตรียมกับข้าวอาหารไว้รอคุณพ่อของผมที่พึ่งไปคุยธุระกิจที่ฮอกไกโด ที่กำลังจะกลับมา

'พรุ่งนี้แล้วสินะ เดทครั้งที่สองของผม'

''ยูริลูกตื่นได้แล้ว''เสียงของคุณแม่ที่ดังเขามาในโสตประสาทของทำให้ผมสะดุ้งตื่นก่อนจะรีบหยิบนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงของผมมาดู

''หกโมงครึ่งแล้วสินะ><''ผมสปริงตัวเองลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะวิ่งไปเปิดประตูรับคุณแม่ที่มาเคาะประตูเพื่อเรียกผมอยู่หน้าห้อง

''อรุณสวัสดิ์จ้า ยูริ''แม่ของผมเอ่ยทักทายผมก่อน

''อรุณสวัสดิ์ครับแม่''ผมตอบกลับท่านไปก่อนที่จะพยุงแม่ของผมพาไปในห้องของท่าน

''ไปอาบน้ำสิลูก อ่ะ นี่ ใช้สบู่นี้นะ สูตรนี้หอมมากจะบอกให้''

''ครับแม่ขอบคุณมากๆนะครับ''ผใโค้งให้แม่ของผมก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวจะออกไปเดท...

ผมแต่งตัวออกมาจากห้องน้ำตามอย่างที่คุณแม่สอนผมเมื่อวาน ก่อนจะเดินไปให้ช่างเสริมสวยประจำตัว เอ๊ย คุณแม่ของผมทำผมให้

แม่ของผมนำที่รีดผมมาก่อนที่จะรีดผมของผมอย่างทะนุถนอม และเบามือ จนไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดยามกระชากผม และเพียงไม่ถึง10นาที ผมของผมก็ตรงเรียบราวกับนางแบบโฆษณาแชมพูซันซิลเลยล่ะ 

แม่ของผมนำยางเส้นเล็กมาก่อนที่จะรวบผมหน้าม้าของผมมามัดเป็นจุกไว้ก่อนที่จะหยืบกิ๊กรูปผีเสื้อที่ประดับไปด้วยคริสตัลมาติดไว้ตรงบริเวณจุกผมนนั้น

แม่ของผมเริ่มทีจะทารองพื้นของท่านให้ผมในปริมาณที่ร้อยนิด เพื่อสร้างความเป็นธรรมชาติให้ผมเล็กน้อย ก่อนที่จะนำอายแชร์โดว์สีฟ้าอ่อนๆ มาป้ายที่เปลือกตาของผมอย่างเชี่ยวชำนาญ

''ยูริจัง เม้มปากสิลูก''แม่ของผมหยิบลิปกรอสสีชมพูอ่อนมาทาปากให้ผม ก่อนที่จะยิ้มชื่นชมในผลงานของตัวเองเล็กน้อย

''เสร็จแล้วคนสวยของแม่ หมุนตัวให้แม่ดูหน่อยสิ''ผมลุกขึ้นก่อนจะทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ผมหม3นตัวท่ามกลางเสียงปรบมือฉละหัวเราะของแม่ผมที่ดังลั่นห้อง

''แม่ฮ่ะ ผมเขินนะ''ผมหันไปบอกแม่ก่อนที่จะมีเสียงออดดังขึ้นมา

''คงจะมาแล้วสินะ เจ้าชายของลูกน่ะ''แม่ยิ้มแพรวพราวก่อนที่จะดันตัวผมไปหาพี่ยูยะที่หน้าบ้าน

''จ้ามาแล้วจ้า เจ้าหญิงของยูยะคุงมาแล้ว''แม่ของผมตะโกรดังก้องอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะเปิดประตูออกมาให้ผมและพี่ยูยะได้พบกัน-//-

''อรุณสวัสดิ์ครับพี่ยูยะ''ผมทักทายเจ้าชายของผมก่อนจะส่งยิ้มที่มั่นใจว่าน่ารักที่สุดไปให้...

แต่ว่าวันนี้พี่ยูยะก็หล่อเหลือเกิน แฟนใครน้า>_ 
ดวงตาของพี่เขาจ้องมาทางผมอย่างไม่มีกระพริบจนทำให้คุณแม่ที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเราะคิกๆอย่างติดตลก

''มองนานจังนะยูยะคุง ลูกชายแม่สวยมากเลยรึไง''

''ครับสวยมากครับคุณแม่''พี่ยูยะหัวเราะเขินปนเล็กน้อย สมทบกับเสียงหัวเราะของคุณแม่ผม

แต่พี่จะรู้ไหมนะว่าตอนนี้หัวใจของผมน่ะ มันเต้นแรง... และสั่นขนาดไหน!

''ฝากด้วยนะเจ้าชายยูยะ พาเจ้าหญิงของแม่กลับมาอย่างปลอดภัยล่ะ''

''ครับผมจะดูและเจ้าหญิงตัวน้อยนี้เป็นอย่างดีเลยครับ''พี่ยูยะยื่นมือมารับผม ประดุจเป็นเจ้าชายที่รอรับเจ้าหญิงอยู่ข้างล่างอย่างงั้นแหละ..

''แตะมือรับคำชวนของเจ้าชายสิเจ้าหญิง''

''อืม ครับ เราไปกันเถอะ'' ผมแตะมือของพี่ยูยะก่อนจะกระโดดลงจากบันไดหน้าบ้านด้วยความเคยชิน แต่เพราะการแต่งตัวที่แปลกไปมำให้ความสะดวกนั้นน้อยลง ทำให้ผมเสียหลักล่มลงไปแต่ก็ยังดีนะครับที่มีพี่ยูยะรับไว้ทัน ไม่งั้นเจ็ตัวแน่ๆ...

''ทีหลังอย่าทำให้แม่เป็นห่วงสิยูริจัง''ยูยะหันไปบ่นแฟนของตนเล็กน้อย ก่อนที่จะประครองร่างบางนั้นขึ้นรถตนไป

''ไปไหนกันก่อนดี?''

''ไปวัดก่อนก็ได้ฮ่ะ ไปทำบุญกัน''

''เด็กดีจริงๆเลยน้า''ยูยะหันมาชมร่างบางก็จะปัดพวงมาลัยรถเพื่อเลี้ยวไปยังวัดที่ใกล้ที่สุดในบริเวณนั้น

''ถึงแล้ว''ยูยะที่เดินลงมาเปิดประตูให้ร่างบางพูดต้อนรับก่อนที่ร่างบางจะเดินลงมาจากรถ

''ดูเป็นวันที่สงบจังนะฮ่ะ''จิเน็นที่เดินดูทางไปรอบๆก็ได้พบกับความสวยงามของวัดเก่าวัดนี้โดยเลื่อมใส

''พี่ว่าเราไปไหว้พระกันเถอะ''พูดจบร่างสูงก็ถือวิสาสะ จับมือของร่างบางก่อนที่จะเดินไปด้วยกัน ไปยังกลางศาลาของวัดนั้น

เพียงเวลาแป๊ปเดียวหลังจากทั้งสองไหว้พระเสร็จ ยูยะก็พาจิเน็นเดินมายังสถานที่ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดตามคำบอกเล่าของสามเณรในวัด

''นี้ยูริจัง ขอพรว่าอะไรน่ะ?''

''ผมขอให้เราได้รักกันและอยู่ด้วยกันตลอดไปครับ''

''พี่ว่าเราไม่ต้องขอก็ได้นะ ยูริจัง''

''ทำไมล่ะครับ?''ร่างบางของจิเน็นงงกับคำพูดของยูยะเล็กร้อนจึงถามขึ้นมา

''ก็เพราะพี่จะรักและอยู่กับยูริจังตลอดไปโดยไม่ให้ใครขวางน่ะสิ''เหมือนถูกสาดด้วยน้ำร้อน หน้าของจิเน็นตอนนี้มีสีแดงฉ่าเหมือนกับพระอาทิตย์อัสดงสีแดงสด ใจและมือนั้น สั่นจนแทบจะคุมไม่อยู่


''ละ แล้ว พี่ยูยะล่ะครับ''ผมพยายามตั้งสติตัวเองอีกครั้งก่อนที่จะถามคำถามกับพี่ยูยะเพื่อกลบเกลื่อนความขวยเขิน

''พี่หรอ? พี่ก็ขอให้เรามีลูกด้วยกันสัก5คนไง อิอิ''พี่ยูยะหัวเราะก่อนที่จะเอานิ้วของพี่เขามาบีบจมูกผมเล่น

'เชอะ เจ็บชะมัด'

''นี่ยูริจัง''พี่ยูยะนำมือของเขามาประครองใบหน้าของผมก่อนที่จะมาสบตาผมด้วยสายตาที่จริงจังและมั่นคง

''อะไรครับ''

''พี่อยากมีลูกกับเราจริงๆนะ''สิ้นเสียงพี่ยูยะ เขาก็นำหน้าของเขาเข้ามาใกล้ผมอย่างรวดเร็ว อย่างไม่ทันตั้งตัว

แต่ให้ตายสิยิ่งพี่เขาอายุเพิ่มขึ้นมาเท่าไร พี่เขายิ่งหล่อขึ้นมากเลยนะ...

ใบหน้าของพี่เขาเริ่มที่จะคืบคานเข้ามาใกล้ผมเข้าไปทุกนาที และทุกวินาทีแล้วสิ...


''อ๊ะ''เมื่อสติกลับมา ผมก็ผลักที่ยูยะออกเบาๆ ถึงแม้ว่าความรู้สึกของผมนั้น ไม่อยากปล่อยเลยก็ตาม...

''พี่ยูยะครับผมขอโทษนะ พอดีว่ามันเป็นวัดน่ะ''ผมก้มหน้างุดๆขอโทษพี่ยูยะเขา

''พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษยูริจังน่ะ''พี่ยูยะยกมือขึ้นมาขิโทษผม ก่อนจะนำมือมาเกลี่ยที่แก้มของผมอีกครั้ง

''แต่ยูริจังนี้ดึงดูดจริงๆเลยน้า''
อะ อะ เอาอีกแล้ว!!! พี่ยูยะจำทำให้ผมเขินไปไหนนะ อสูรตัวร้ายจริงๆให้ตายเหอะ :(

''ไปที่อื่นได้แล้วฮ่ะ พี่ยูยะ''ผมหันไปตีพี่ยูยะ ก่อนที่จะรีบวิ่งแจ้นหนีพี่เขาขึ้นรถไป...

''แฮ่ก ๆ นี่ตัวเล็กทำไมวิ่งไวจังนะ''พี่ยูยะ ที่วิ่งตามมาทันผมก็บ่นเล็กน้อย พลางทำหน้างอนๆด้วยแหละ ทำไงได้ล่ะ -0-

''ก็พี่ยูยะหื่น''ผมบอกก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นเพื่อเลี่ยงการจะสบตากับพี่ยูยะก็ทำไงได้ล่ะ มันเขินนี่หน่า -//- 

''ก็พี่บอกเเล้วไงว่ายูริจังน่ะ ดึงดู...''พี่ยูยะเอื้อมมือมาก่อนจะเชยคางผมมาตั้งท่าจะ... จูบ!

จูบอีกแล้วหรอ พี่ยูยะคนบ้า!
เอ๊ะ อ๊ะ ก็จับจูบ จับจูบ ถ้าปากผมเปื่อยจะทำไงห๊าาาา!

''พี่ยูยะหยุดเลยนะฮ่ะ งั้นผมงอนจริงๆด้วย''ร่างบางของจิเน็นตั้งสีหน้าเข้มขึงจริงจัง ก่อนที่จะเดินออกห่างจากคนรักตน

''เดี๋ยวก่อนสิ พี่ขอโทษนะ''ยูยะที่เห็นท่าว่าจะไม่ดี ก็จับข้อมือบางเพื่อจะเป็นการรั้งไว้ไม่ให้ร่างบางนั้นหนีไปไหน ซึ่งมันก็สำเร็จ! ร่างบางหยุดกึก ก่อนจะหันไปมองหน้าของยูยะเล็กน้อย

''ผมโกรธพี่จริงๆด้วย :( คนบ้า''ร่างบางกระหวัดกระเหวี่ยง ก่อนจะทุบเข้าที่อกของยูยะ ดัง'ปั่ก' แต่ก็ยังไม่ยอมหนีไปไหน 

หลังจากที่โดนทุบไป สีหน้าของยูยะดูเจื่อนและซีดไปเล็กน้อย เพราะตั้งแต่เขาคบกับจิเน็นมา จิเน็นไม่เคยตั้งท่างอนขนาดนี้มาก่อนนี่สิ...

จิเน็นเมื่อเห็นชายผู้เป็นที่รักของตน มีสีหน้าเศร้า เขาก็ตกใจเล็กน้อย เพราะยูยะน่ะ ไม่เคยมีสีหน้าเครียดหรือจริงจัง และดุดัน ให้เขาได้เห็นเลย พี่ยูยะคงจะเครียดเพราะเขาจริงๆสินะ

''พี่ยูยะผมไม่โกรธพี่แล้วก็ได้ ดีกันนะ''ร่างบางหันไปเกาะแขนคนรักของตนก่อนที่จะชูนิ้วก้อย เพื่อเป็นการแสดงว่าตนนั้นจะของ้อ

''หอมพี่ก่อนทีนึง''ร่างสูงหันมาวางท่า ก่อนจะพองลมที่แก้มข้างนึงเพื่อให้ร่างบางนั้นหอมแก้มตนตามคำขอ

''กะ ก็ได้ครับ ถ้าผมหอมแล้วเราไปร้านไอติมกันเถอะนะ''สิ้นเสียงร่างบางก็เขย่งปลายเท้าของตัวเองก่อนที่จะกดจมูกของตนลงบนแก้มของร่างสูงอย่างเขินอาย

''อ่า~ ชื่นใจที่ซู้ดดด ไปกันเถอะที่รัก''
-----------------------------------------

เพียงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถของยูยะก็แล่นมาถึงร้านไอศกรีมร้านนึงในตัวเมือง ที่มีบรรยากาศอบอุ่นไปด้วยกลิ่นหอมของเบเกอร์รี่ และความเย็นของไอศกรีม

เสียงกระดิ่งจากการเปิดประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงของพนักงานต้อนรับที่ดังขึ้น

''ยินดีต้อนรับครับ ไม่ทราบว่ารับกี่ทีครับ ?''พนักงานหนุ่มน้อยน่าหวานถามกับยูยะ อย่างนอบน้อม

''สองที่ครับ''ร่างสูงควักกระเป๋าตังค์ก่อนจะให้ทิปกับพนักงานต้อนรับหนุ่ทคนนั้นไป500เยน

''ขอบคุณครับ นี่ทีนั่งของพวกคุณทั้งสอง ขอให้โชคดี นะครับ''พนักงานต้อนรับโค้งให้ ก่อนจะเดินหนีออกไป เพื่อให้คนทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน

ในเวลาต่อมาพนังงานรับออเดอร์ที่สวมชุดเมดแบบผู้ชาย และหูแมว ก็เดินมา 

''นี่ครับเมนู ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองจะรับอะไรครับ''

''ผมขอสตอเบอร์รี่ชีสเค้ก สปินสตอเบอร์รี่ ครัวซอง แล้วก็ไอติมช็อกโกแลตครับ เอ่อ พี่ยูยะล่ะ ?''ร่างบางที่สั่งอาหารเสร็จก็หันไปถามคนรักของตน

''ผมขอบราวนี่ กับ คาปูชิโน่เย็นก็แล้วกัน''เมื่อรับออเดอร์เสร็จพนักงานก็เดินจากไปเพื่อไปยื่นออเดอร์ให้เจ้าของร้าน

''เอ๊ะ พี่ยูยะครับ ทำไมวันนี้กินน้อยจังอ่ะ พี่จะลดน้ำหนักหรอ''ร่างบางที่ผิดสังเกตุถามคนรักตนอย่างสงสัย

''หึหึ ก็ไม่มีอะไรหรอก พี่อยากกินน้อยก็แค่นั้นเอง''ร่างสูงยิ้มปะแล่มๆ ทำให้ร่างบางที่ได้เห็นแอบแปลกใจเข้าไปใหญ่ ต้องมีแผนอะไรแน่ๆสินะ

''ของมาเสริฟแล้วครับบบบบ''พนักงานเสริฟ เข็นของที่สั่งมา ก่อนจะว่างอาหารไว้ที่หน้าของคนทั้งสอง

''ขอให้ท่านทั้งสอง ทานให้อร่อยและมีความสุขกับร้านของเรามากๆนะครับ''

ร่างบางที่เริ่มกินครัวซอง อย่างเอร็ดอร่อย หันมาสังเกตุคนรักของตนด้วยความสงสัย ก่อนจะพบว่าร่างสูงนั้น ตั้งใจที่จะดูตนกินซะมากกว่ากินบราวนี่ที่ร่างสูงสั่งมา

''พี่ยูยะครับทำไมไม่กินอ่ะ''

''ก็พี่เห็นเรากิน พี่ก็มีความสุขแล้วนี้ตัวเล็ก''ร่างสูงกลั้วหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะหยิกแก้มร่างบางเข้าไปหนึ่งที 

''แหม งั้นพี่ก็ไม่กินแล้วสินะ งั้นผมขอนะครับ''ร่างบางยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย ก่อนจะคว้าจานบราวนี่ของยูยะมา เป็นของตน

''หยุดนะตัวเล็ก พี่จะกิน :(''ร่างสูงทำหน้างอนเล็กน้อย แต่มันทำให้ร่างบางเห็นยิ่งหัวเราะในท่าทางน่ารักๆ ของร่างสูงเข้าไปใหญ่

''ไม่ให้มีไรป่ะ!''ร่างบางทำหน้ากวนบาทาเล็กน้อยก่อนจะตักบราวนี่เข้าปากตัวเองแต่ก็ยังคงไม่กลืนให้หมด เเละเหลือไว้ในปากเล็กน้อย

''พี่ยูยะอ้าปาก ผมจะป้อน''ร่างบางสั่งให้ร่างสูงอ้าปาก ร่างสูงก็อ้าปาก ตามคำสั่ง แต่แล้วร่างบาง ก็ปัดช้อนตกลง ไปสู่พื้นอย่างจงใจ

''อ๊ะช้อนตกซะแล้ว งั้นจะให้ผมทำไงเนี่ย ป้อนอย่างนี้ดีกว่า''สินเสียงร่างบางก็ปีนโต๊ะ ก่อนจะก้มลงไปตำแหน่งปากของร่างสูง และป้อนบราวนี่ที่อยู่ในปากให้ด้วยการ จูบ...

~จูบนี้ยังคงอยู่ค้างคาในจิตใจ
จูบนี้ยังตราตรึงอยู่ในหัวสมอง
เธอทำให้ฉันนั้นบ้าคลั่ง
ราวกับกลองที่ถูกตี
หัวใจของฉันนั้นสั่นเต้นรัว
ราวกับแซมบ้าที่เคลื่อนไหว
ด้วยความรัก~

''อร่อยไหมฮ่ะ''ร่างบางที่ถอนปากออกมามีสีหน้าเเดงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามคนรักของตน

''อร่อยสิ อร่อยที่สุด แต่อย่ายั่วพี่ให้มากนัก''ร่างสูงหันไปตอบคนรักของตนพลางดุไปพลาง 

''ทำไมล่ะครับ?''

''ก็พี่กลัวจะอดใจไม่ไหว กดเรากลางร้านน่ะสิ''

''พี่ยูยะบ้า หื่นอีกแล้ว''ร่างบางที่เขินบิดตัวจนเหมือนแทบจะเป็นเกลียวก็ใช้มือของตนตีร่างสูงเป็นพัลวันเพื่อกลบความเขิน

''
ถ้าพี่หื่นเราก็ยั่วตัวดีเลยล่ะ''ร่างสูงพูดก่อนจะใช้นิ้วของตนดีด หน้าผากของร่างบางเล็กน้อย

''โอ๊ย พี่ยูยะบ้า ผมไม่ได้ยั่วพี่สักหน่อย=3='' 

''เราน่ะยั่วตัวยงเลย''

''ผมไม่ได้ยั่วสักหน่อย พี่ยูยะอ่ะหื่น''ร่างบางตีร่างสูงเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าหลบความอายไปทางอื่น

''นี่ยูริ...''เสียงที่เถียงกันแบบตลก เปลี่ยนไปราวกับฟ้าเหวทำให้ร่างบางที่หันหลบความอายอยู่นั้นหันมา

''ทำไมครับ?''

''แต่งงานกันนะ แต่งงานกับพี่''ร่างสูงหยิบกล่องสีแดงกำมะหยี่ในกระเป๋าตนมา ก่อนจะหยิบแหวนเพชรที่คาดว่าคงมีมูลค่ามหาศาล
ออกมา

''แต่งงานกับพี่นะ คนดี''


''ผมเคยคิดที่จะปฏิเสทด้วยหรอครับพี่ยูยะ''ร่างบางที่ดีใจจน แทบจะเอ่ยเป็นคำพูดไม่ถูก ก็ลุกขึ้นมาหอมแก้มรางสูงเพื่อเป็นการให้รางวัล

''เอาอีกแล้วนะ คนดีอย่ายั่วพี่มากสิ พรุ่งนี้พี่จะให้แม่มาขอเรานะ''สิ้นเสียงร่างสูงก็ก้มลงจูบข้อมือของร่างบาง และบรรจงสวมแหวนให้อย่างทะนุนอม

''พี่ยูยะครับผมรักพี่นะครับ''สิ้นเสียง ร่างบางก็ปล่อยโฮ ด้วยความดีใจ ก่อนจะสวมกอดร่างสูงของคนรักอย่างปลื้มปิติ

ความรักที่เบ่งบานก็เหมือนกับดอกทานตะวัน...
มีหุบยามทะเลาะ มีบานยามมีความสุข
แต่เราก็ยังสามารถที่จะอยู่มั่นคง และทนทาน มาจนถึงทุกวันนี้...
วันที่เราจะได้แต่งงานกัน...

ราวกับของในห้องเป็นพยานรัก
แสงไฟในห้องเหมือนแสงสว่างไฟของงานแต่งงาน
เสียงดนตรีในร้านเป็นเหมือนเสียงเครื่องดุริยางค์ที่ขับขานยามงานแต่ง
และคู่บ่าวสาวที่สัญญาว่า
จะอยู่และรักกันตลอดไป
END


tumblr_mbfu21pctY1qg8lk3o7_r1_500.png